บาห์เรน
บาห์เรน (Bahrain) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรบาห์เรน (Kingdom of Bahrain) มีการส่งออกน้ำมันเป็นรายได้หลักมาตั้งแต่ ปี 2475 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของบาห์เรนมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ใน GCC รัฐบาลบาห์เรนจึงเร่งทำการสำรวจหาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติม อีกทั้งยังมีนโยบายสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ (Economic Diversification) เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันและลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันโลก โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมอะลูมิเนียม รวมทั้งพัฒนาประเทศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางด้านการเงินการธนาคารของภูมิภาค
ภูมิประเทศและภูมิอากาศ
บาห์เรน มีพื้นที่ทั้งหมดราว 760 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ประมาณ 33 เกาะ ซึ่งห่างจากฝั่งทะเลตะวันออกของซาอุดีอาระเบีย 24 กิโลเมตรและห่างจากชายฝั่งทะเลตะวันตกของกาตาร์ 27 กิโลเมตร มีความยาวชายฝั่งประมาณ 161 กิโลเมตร สภาพภูมิประเทศเกือบทั้งหมดเป็นที่ราบต่ำในทะเลทราย ค่อยๆ ชันขึ้นทางตอนกลาง
สำหรับสภาพอากาศ จะแบ่งออกเป็น 2 ฤดูหลักๆ คือ ฤดูหนาวในช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิจะอยู่ที่ 19-29 องศาเซลเซียส และฤดูร้อนในช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม มีอากาศร้อนชื้น ซึ่งอุณหภูมิอาจสูงถึง 49 องศาเซลเซียส
ประชากร
ประชากรของบาห์เรนมีประมาณ 1.3 ล้านคน เป็นชาวบาห์เรน 62 % ที่เหลือเป็นชาติอื่นๆ
การเมืองการปกครอง
บาห์เรน ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กษัตริย์เป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี โดยมีรัฐสภาซึ่งประกอบด้วยสภาที่ปรึกษา (Shura Council เทียบเท่าวุฒิสภา) และสภาผู้แทนราษฎร (Nuwwab Council) ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ทำหน้าที่ในด้านนิติบัญญัติ อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติการตัดสินใจทางการเมืองการปกครองขึ้นอยู่กับกษัตริย์ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ที่เป็นพระปิตุลาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน
ภาษา
ภาษาราชการของชาวบาห์เรน คือ ภาษาอาหรับ แต่ก็มีการใช้ภาษาอังกฤษอย่างกว้างขวางเช่นกัน
ศาสนา
ชาวบาห์เรนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามถึง 50 % คริสต์40% และความเชื่อดั้งเดิม 10%
สกุลเงิน
สกุลเงินของบาห์เรน คือ บาห์เรนดีนาร์ (Bahrain Dinar) ใช้ตัวย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า BHD โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 บาห์เรนดีนาร์ ต่อ 78 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ 28 มีนาคม 2556)
บาห์เรน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 32.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีรายได้ประชากรต่อหัว 28,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม อะลูมิเนียม สิ่งทอ โดยมีคู่ค้าที่สำคัญ คือ ซาอุดิอาระเบีย ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ ขณะที่สินค้านำเข้าที่สำคัญ คือ น้ำมันดิบ เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ โดยมี ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา จีน บราซิล ญี่ปุ่น อินเดีย เยอรมัน เป็นคู่ค้าที่สำคัญ
ด้านการค้าระหว่างไทย-บาห์เรน บาห์เรนยังเป็นตลาดเล็กสำหรับไทย โดยเป็นคู่ค้าลำดับที่ 98 ของไทย และลำดับที่ 7 จาก 15 ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางแอฟริกาตอนเหนือ มูลค่าการค้ารวมในรอบ 4 ปี (2548 – 2551) เฉลี่ยปีละประมาณ 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่ไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า ทั้งนี้ สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปบาห์เรน ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ตู้เย็น ผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าสำเร็จรูป ทองแดง และผลิตภัณฑ์ทองแดง ผ้าผืน อัญมณีและเครื่องประดับ และเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากบาห์เรน ได้แก่ สินแร่โลหะ น้ำมันสำเร็จรูป ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ผ้าผืน เหล็กและเหล็กกล้า รถยนต์ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เป็นต้น
ในปี 2555 การค้าไทย-บาห์เรนมีมูลค่ารวม 428.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นมูลค่าสินค้าส่งออก 163.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1) และสินค้านำเข้า 265.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 70.1)
สำหรับการลงทุนในบาห์เรนอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ 100% ในหมวดอุตสาหกรรม และการจัดตั้งบริษัทสาขาจากต่างชาติ แต่สำหรับการค้าจะต้องมีผู้ถือหุ้นชาวบาห์เรน 51% สำหรับสาขาที่บาห์เรนส่งเสริมการลงทุนเป็นพิเศษ ได้แก่ อะลูมิเนียม การแปรรูปอาหาร พลาสติกและเคมีภัณฑ์ ยา และสำหรับการบริการ ได้แก่ การธนาคาร การประกันภัย สารสนเทศ การกระจายสินค้า การท่องเที่ยว การสื่อสาร และการซ่อมบำรุง สำหรับอุตสาหกรรมที่ไทยมีโอกาส ประกอบด้วย การก่อสร้าง กลั่นน้ำมัน โรงงานอาหารแปรรูป ธุรกิจโรงแรม สปา ร้านอาหาร โรงงานประกอบสินค้า เช่น เครื่องปรับอากาศ อะไหล่รถยนต์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://globthailand.com